รูปแบบการอ้างอิงแหล่งข้อมูลในอินเตอร์เน็ต



เทคนิคการสืบค้นข้อมูล



การเตรียมตัวก่อนการค้นหา

1.ผู้ค้น จะต้องทราบว่าตนเอง ต้องการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องใดและต้องมีข้อมูลประกอบในการค้นหา เช่น ชื่อผู้แต่ง เป็นต้น
2.รู้จักแหล่งสารสนเทศหรือเครื่องมือที่จะใช้ค้นหา เช่นถ้าต้องการค้นหาทรัพยากรห้องสมุดมหาวิทยาลัยขอนแก่น ควรจะใช้ฐานข้อมูล OPAC เป็นต้น
3.ต้องรู้จักวิธีการใช้ฐานข้อมูลหรือเครื่องมือที่ใช้ค้นหา เช่นรู้จักวิธีค้นหาแบบพื้นฐาน
หรือหากจะให้ดีก็ควรรู้จักการค้นหาแบบขั้นสูงด้วยนอกจากนี้ยังต้องรู้จักวิธีการจัดการผลลัพธ์
ได้แก่ การบันทึก การสั่งพิมพ์การส่งข้อมูทาง E-mail การจัดการรายการบรรณานุกรมเป็นต้น
4.ต้องรู้จักวิธีการใช้ห้องสมุดและการหาหนังสือบนชั้น
5.รู้จักกฏ กติกา มารยาทในการใช้แหล่งสารสนเทศ ฐานข้อมูลหรือเครื่องมือค้นหา




เทคนิคการสืบค้นข้อมูลโดยทั่วไปมีดังนี้

1.การค้นหาแบบพื้นฐาน (Basic Search) ใช้คำโดดๆ หรือผสมเพียง 1 คำในการสืบค้นข้อมูล
โดยส่วนใหญ่การค้นหาแบบง่ายจะมีทางเลือกในการค้นหา ได้แก่
1.1 ชื่อผู้แต่ง (Author)เป็นการค้นหาโดยใช้ชื่อของบุคคลกลุ่มบุคคล นามปากกา หรือชื่อหน่วยงาน/องค์กร
ที่เป็นผู้แต่งหรือเขียนหนังสือบทความ งานวิจัย วิทยานิพนธ์ หรือทรัพยากรสารสนเทศนั้นๆ ซึ่งมีหลักการค้นหาง่ายๆ ดังนี้
1.1.1 ผู้แต่งคนไทย
เป็นการค้นหาชื่อบุคคล ตัวอย่างเช่น กุลธิดา ท้วมสุข ให้ตัดคำนำหน้าชื่อออก
 เช่น นาย นาง นางสาวหรือหากเป็นบุคคลที่มีบรรดาศักดิ์หรือฐานันดรศักดิ์
ให้ค้นด้วยชื่อและต่อท้ายด้วยบรรดาศักดิ์หรือฐานันดรศักดิ์ หากเป็นการค้นหาชื่อที่เป็น
นามปากกาฉายาหรือสมณศักดิ์ ให้ค้นหาตามนามปากกา ฉายา หรือสมณศักดิ์
1.1.2 ผู้แต่งที่เป็นชาวต่างประเทศ
ให้ค้นหาโดยใช้ ชื่อสกุลตามด้วยชื่อกลางและชื่อต้น ยกตัวอย่างเช่น “Judith G. Voet”
ชื่อที่ใช้ค้น คือ Voet, Judith G. หรือ Voet, Judith หรือ Voet
1.1.3 ผู้แต่งที่เป็นหน่วยงาน/องค์กร
ให้ค้นหาตามชื่อหน่วยงานหรือชื่อองค์กรนั้น เช่น การค้นหาชื่อหน่วยงานที่มีทั้งหน่วยงานใหญ่และหน่วยงานย่อย
ให้ค้นหาโดยใช้ชื่อหน่วยงานใหญ่ก่อน แล้วตามด้วยชื่อหน่วยงานย่อย หากเป็นชื่อย่อเมื่อค้นหาให้ใช้ชื่อเต็ม ยกตัวอย่างเช่น
– สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยขอนแก่นชื่อที่ใช้ค้น คือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. สำนักวิทยบริการ
– ททท. ชื่อที่ใช้ค้น คือการท่องเที่ยวแห่ประเทศไทย
1.2ชื่อเรื่อง (Title)
เป็นการค้นหาข้อมูล ด้วยชื่อเรื่องเช่น ชื่อหนังสือ หลักการค้นหาด้วยชื่อเรื่องทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศใช้หลักการเดียวกัน
คือ ค้นหาตามชื่อนั้นๆ ได้เลยยกตัวอย่างเช่น เรื่องเพลงรักในสายลมหนาว, เรื่องอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้เริ่มต้น, และเรื่อง EngineeringAnalysis
1.3หัวเรื่อง (Subject Heading)
คือ คำหรือวลีที่กำหนดขึ้นมาเพื่อใช้แทนเนื้อหาของหนังสือ บทความ งานวิจัย วิทยานิพนธ์หรือทรัพยากรสารสนเทศหัวเรื่องที่ใช้ในการค้นหานั้น
1.4คำสำคัญ (Keywords) คือ
การค้นหาด้วยคำหรือวลีที่กำหนดขึ้นมา เพื่อใช้แทนเรื่องที่ต้องการค้นหาโดยทั่วไปคำสำคัญจะมีลักษณะที่สั้น
กระทัดรัด ได้ใจความ มีความหมายเป็นคำนามหรือเป็นศัพท์เฉพาะในแต่ละสาขาวิชา
2.การค้นหาแบบขั้นสูง (Advanced Search)
เป็นการค้นหาที่ซับซ้อนมากกว่าแบบพื้นฐานซึ่งมีเทคนิคหรือรูปแบบการค้นที่จะช่วยให้ผู้ค้นสามารถจำกัดขอบเขตการค้นหา
หรือค้นแบบเจาะจงได้มากขึ้นเพื่อให้สามารถค้นหาข้อมูลได้ที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด
2.1การสืบค้นข้อมูล
โดยใช้ตรรกบูลีน (Boolean Logic) หรือการค้นหาโดยใช้ Operator เป็นการค้นหา โดยใช้คำเชื่อม 3 ตัว คือ AND,
OR, NOT ดังนี้
– AND ใช้เชื่อมคำค้น เพื่อจำกัดขอบเขตการค้นหาให้แคบลง เช่น ต้องการค้นหาคำว่าสัมตำที่เป็นอาหาร
มีรูปแบบการค้นดังนี้ คือ ส้มตำ ANDอาหารหมายถึง ต้องการค้นหาคำว่า ส้มตำ และคำว่า อาหาร
– OR ใช้เชื่อมคำค้น เพื่อขยายขอบเขตให้กว้างขึ้น เช่น สัมตำไทย OR ส้มตำปูปลาร้า
หมายถึง ต้องการค้นหาคำว่า สัมตำไทย และ ส้มตำปูปลาร้าหรือค้นหาคำใดคำหนึ่งก็ได้
– NOT ใช้เชื่อมคำค้น เพื่อจำกัดขอบเขตให้แคบลง เช่น ต้องการค้นหาคำว่า ส้มตำ AND
อาหาร NOT เพลง หมายถึง ต้องการค้นหา คำว่าส้มตำ เฉพาะที่เป็นอาหาร ไม่เอาเพลงส้มตำ เป็นต้น




การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต

1. เว็บไซต์ (Website)  :  ที่ ตั้งเครือข่ายข้อมูลที่เชื่อมโยงติดต่อกันได้ทั่วทุกมุมโลกโดยการค้นหา
ข้อมูลในแต่ละเว็บไซต์จะต้องทราบชื่อเว็บไซต์ที่เราต้องการหาข้อมูลนั้นๆ หรือสามารถค้นหา
                    1.1  การค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์ตามคำหลัก  จะต้องอาศัยการประมวลข้อมูลที่ต้องการค้นหาออกมาเป็นคำหลัก  (keyword)  ให้ได้ก่อน
                    1.2
การสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์ตามหมวดหมู่ที่ทางเว็บไซต์ได้แบ่งหมวดหมู่ไว้ อย่างชัดเจนทำให้สะดวกมากขึ้น  โดยการจัดหมวดหมู่ของแต่ละเว็บไซต์จะแตกต่างกัน
2. ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์  :  ห้องสมุดประเภทนี้จะแตกต่างจากห้องสมุดทั่วไปเพราะสามารถใช้บริการผ่านทาง
อินเทอร์เน็ต  การค้นหาข้อมูลสะดวก  รวดเร็วโดยสามารถค้นคว้าได้จากชื่อเรื่องหัวเรื่อง ชื่อหนังสือชื่อผู้แต่งเลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ (ISBN)
 เลขมาตรฐานสากลประจำวารสาร (ISSN)  สำนักพิมพ์  ปีที่พิมพ์ เป็นต้นซึ่งการค้นคว้าในห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์
สามารถระบุข้อมูลหรือเงื่อนไขเฉพาะได้ชัดเจน  เช่น ต้องการทราบผลงานของสุนทรภู่
เฉพาะเกี่ยวกับนิราศก็สามารถระบุเงื่อนไขที่เกี่ยวกับชื่อผู้แต่ง  คือสุนทรภู่  และระบุหัวข้อเรื่อง  คือ
นิราศ  ระบบสามารถประมวลผลงานของสุนทรภู่เฉพาะเรื่องที่เป็นนิราศเท่านั้น
3. ฐานข้อมูลออนไลน์  ฐานข้อมูล  :
แหล่งจัดเก็บข้อมูลหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง
หรือหมายหัวข้อที่รวบรวมมาจากแหล่งข้อมูลหลาย ๆ แหล่ง  จำนวนข้อมูลในฐานข้อมูลมักมีมากมายนับหมื่น แสน
หรือล้านรายการ ออนไลน์ (online)  เป็นคำทับศัพท์  : การเชื่อมโยงผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
การสืบค้นข้อมูลจากฐานข้อมูลออนไลน์ให้ได้ตรงตามความต้องการ  อาจใช้เทคนิคง่าย ๆ ดังนี้
                    1.  ทำความเข้าใจความหมายของคำเชื่อมที่สำคัญ 3คำ  คือ “ และ   หรือ    ไม่ ”
                    2.  ใช้สัญลักษณ์ หากไม่ทราบวิธีสะกดคำที่ถูกต้อง
                        เครื่องหมายคำถาม  “?”      เครื่องหมายดอกจัน  “*”
                    3. ฐานข้อมูลอีริก (ERIC database)  ซึ่งเป็นฐานข้อมูลด้านการศึกษาให้ใช้คำว่า  NEAR สำหรับการค้นที่รวมคำที่ใกล้เคียงกับคำที่ต้องการด้วย





การเขียนรายละเอียดทางบรรณานุกรม
     
       การเขียนรายละเอียดทางบรรณานุกรมสำหรับแหล่งข้อมูลที่เผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตมีหลักการเช่นเดียวกับการเขียน
รายละเอียดทางบรรณานุกรมของแหล่งข้อมูลประเภทอื่น ๆคือ ต้องให้รายละเอียดที่ทำให้ผู้สนใจสามารถเข้าถึงแหล่ง
ข้อมูลนั้น ๆ ได้ในที่นี้จะขอกล่าวถึงการเขียนรายละเอียดทางบรรณานุกรมสำหรับแหล่งข้อมูลที่เผยแพร่บนอินเตอร์เน็ตสามประเภทใหญ่ ได้แก่
1.หนังสือ
2.เอกสาร และบทความ
3.ข้อความที่ประกาศ (post) และจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
การเขียนบรรณานุกรมข้อความที่ประกาศบนอินเทอร์เน็ต หมายถึงข้อความที่นำเสนอเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเว็บฟอรัม (web forum)
ข้อความที่นำเสนอในลิสต์เซิร์ฟ (Listserv)และกลุ่มข่าว (Newsgroup) ต่าง ๆรายละเอียดที่ควรระบุ ได้แก่ ชื่อผู้ประกาศ
วันเดือนปีที่ประกาศ หัวเรื่อง(ดูตามที่ปรากฏในบรรทัดหัวข้อ subject) และยูอาร์แอล(ยกเว้นสำหรับ ข้อความในกลุ่มข่าว
ให้ระบุชื่อกลุ่มข่าวแทน) โดยในแบบเอพีเอ และแบบเอ็มแอลเอ กำหนดให้มีข้อความที่บ่งว่าเป็นข้อความ ที่ประกาศ
และในแบบเอ็มแอลเอและ แบบชิคาโก กำหนดให้ระบุวันที่ที่สืบค้น
        รูปแบบการเขียนบรรณานุกรม
 ข้อความ
: การจัดเรียงบรรณานุกรม
หนังสือ
ชื่อ/ชื่อสกุล.//(ปีที่พิมพ์).//ชื่อเรื่องหนา.//ครั้งที่พิมพ์.//เมืองที่พิมพ์:/สำนักพิมพ์หรือผู้จัดพิมพ์.
วารสาร
        ชื่อ/ชื่อสกุลผู้เขียนบทความ.//(ปี,/วัน/เดือน).//ชื่อบทความ.//ชื่อวารสารหนา.//ปีที่(ฉบับที่)/:/หน้าที่อ้าง.
        ชื่อบทความ.//(ปี,/วัน/เดือน).//ชื่อวารสารหนา.//ปีที่(ฉบับที่)/:/หน้าที่อ้าง.
หนังสือพิมพ์
        ชื่อผู้เขียน.//(ปี,/วัน/เดือน).//ชื่อบทความหรือชื่อคอลัมน์.//ชื่อนสพหนา.//หน้าที่ตีพิมพ์.
เว็บไซต์
        ผู้แต่ง.//(ปีที่พิมพ์,/วันเดือนของวารสารหรือปีที่สืบค้น).//ชื่อบทความ.//ชื่อวารสารหนา.//(คำบอกแหล่งข้อมูลอิเลกทรอนิกส์).
//ปีที่(ฉบับที่)/:/หน้า.//แหล่งที่มา:/ชื่อของแหล่งที่มา;/ชื่อแหล่งย่อย.//วันที่สืบค้น.
หัวข้อย่อยในเว็บไซต์หนา. (ปีที่สืบค้น).//แหล่งที่มา:/ชื่อของแหล่งที่มา;/ชื่อแหล่งย่อย.//วันที่สืบค้น.
        เช่น
        ราชบัณฑิตยสถาน. (2543).
รายงานผลการวิจัยเรื่องการออกเสียงคำไทย(หนา). (ออนไลน์). แหล่งที่มา:http:…….html. วันที่สืบค้น 25 กรกฎาคม 2547.














ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น